ทำความเข้าใจข้อผิดพลาดเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์
ข้อผิดพลาด หมายเลขโทรศัพท์นี้มีอยู่แล้ว (phone number already exists) เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางผู้ที่ต้องการสมัครเป็นตัวแทน (Agent) เมื่อระบบตรวจพบว่าหมายเลขของคุณเชื่อมโยงกับบัญชี Chamet ที่มีอยู่แล้ว Chamet บังคับใช้นโยบายหนึ่งบัญชีต่อหนึ่งหมายเลขโทรศัพท์อย่างเคร่งครัดทั่วทั้งแพลตฟอร์ม เพื่อป้องกันบัญชีซ้ำซ้อนและรักษาความถูกต้องของข้อมูล
ข้อผิดพลาดนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณตั้งใจสร้างบัญชีขึ้นมาเสมอไป ระบบจะตรวจสอบหมายเลขของคุณเทียบกับบัญชีที่ใช้งานอยู่, บัญชีที่ถูกระงับ, การลงทะเบียนที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และความพยายามที่ถูกบันทึกไว้ในแคช (Cache) แบบเรียลไทม์ Chamet จะเก็บรักษาบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้ตลอดไป แม้จะเป็นบัญชีที่ถูกลบหรือถูกทิ้งไปแล้วก็ตาม
เพื่อการบริหารจัดการการดำเนินงานใน Chamet อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือก เติมเพชร Chamet ผ่าน BitTopup จะช่วยให้คุณทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย พร้อมราคาที่คุ้มค่า
การลงทะเบียนบัญชีตัวแทน (Agent) เทียบกับบัญชีทั่วไป
บัญชีทั่วไปอนุญาตให้รับชมการถ่ายทอดสดและส่งของขวัญได้ ส่วนบัญชีตัวแทนจะได้รับสิทธิ์ในการรับสมัครวีเจ (Broadcaster), ติดตามค่าคอมมิชชัน และเข้าถึงแดชบอร์ดของเอเจนซี่ โดยทั้งสองประเภทใช้ฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์เดียวกัน
ข้อแตกต่างที่สำคัญ: Chamet ห้ามนำบัญชีโฮสเตส (Hostess) ที่มีอยู่แล้วมาผูกกับเอเจนซี่ และห้ามเปลี่ยนการผูกบัญชีโฮสเตสที่ยังใช้งานอยู่ การลงทะเบียนตัวแทนต้องใช้ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, ชื่อเอเจนซี่, ภูมิภาค และหมายเลขโทรศัพท์มือถือพร้อมการยืนยันผ่าน SMS
ทำไมผู้สมัครครั้งแรกถึงเจอข้อผิดพลาดนี้
การนำหมายเลขโทรศัพท์มาใช้ใหม่ (Recycling): หมายเลข ใหม่ ของคุณอาจเคยเป็นของผู้ใช้ Chamet คนก่อนหน้า ผู้ให้บริการเครือข่ายมักจะนำหมายเลขที่ถูกยกเลิกมาหมุนเวียนใช้ใหม่หลังจาก 90-180 วัน แต่ Chamet จะเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ถาวร
การลงทะเบียนที่ไม่สมบูรณ์: หากคุณเคยกรอกหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างสมัครแต่ยกเลิกไปก่อนจะเสร็จสิ้น ระบบอาจบันทึกข้อมูลนั้นไว้ในแคช บันทึกฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะยังคงอยู่แม้ว่าคุณจะล้างข้อมูลแอปแล้วก็ตาม
โทรศัพท์ที่เคยผ่านการใช้งานโดยผู้อื่น: คนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานอาจเคยใช้หมายเลขของคุณลงทะเบียนโดยที่คุณไม่ทราบ
5 สาเหตุหลักของปัญหา
สาเหตุที่ 1: แคชการลงทะเบียนที่ไม่สมบูรณ์
Chamet จะบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ทันทีที่คุณคลิก ส่ง (Send) เพื่อขอรหัสยืนยัน ไม่ใช่ตอนที่ลงทะเบียนเสร็จสิ้น ข้อมูลการลงทะเบียนบางส่วนจะยังคงอยู่ในฐานข้อมูลเพื่อการตรวจสอบความปลอดภัย แม้ว่าคุณจะไม่เคยกรอกรหัส OTP เลยก็ตาม
สาเหตุที่ 2: เคยมีบัญชีทั่วไปมาก่อน
หากคุณเคยสร้างบัญชีทั่วไปไว้เมื่อหลายเดือนหรือหลายปีก่อน บัญชีนั้นจะยังคงอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของ Chamet การถอนการติดตั้งแอปเป็นการลบซอฟต์แวร์ออกจากเครื่องเท่านั้น แต่บัญชีของคุณยังคงมีสถานะใช้งานอยู่ในฝั่งเซิร์ฟเวอร์
สาเหตุที่ 3: ความล่าช้าในการซิงค์ฐานข้อมูล (24-48 ชั่วโมง)
Chamet ใช้ฐานข้อมูลแบบกระจายตัวในแต่ละภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงบัญชี (การปิดใช้งาน, การอัปเดตเบอร์, การลบ) ต้องใช้เวลาในการส่งข้อมูลไปยังโหนดทั้งหมด ซึ่งปกติจะใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นในช่วงที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น
หากคุณเพิ่งปิดบัญชีหรือขอปลดการเชื่อมต่อเบอร์โทรศัพท์ พอร์ทัลการลงทะเบียนตัวแทนอาจยังดึงข้อมูลจากโหนดฐานข้อมูลที่ยังไม่อัปเดต
สาเหตุที่ 4: ปัญหาการจดจำรูปแบบหมายเลขโทรศัพท์
รูปแบบหมายเลขสากลอาจทำให้เกิดความสับสน หมายเลขที่กรอกเป็น +1-555-123-4567 อาจถูกบันทึกเป็น 15551234567 ในขณะที่ 555-123-4567 พร้อมรหัสประเทศที่แยกกันอาจถูกจัดเก็บในรูปแบบที่ต่างออกไป
ความแตกต่างของแต่ละภูมิภาคในการจัดการเลขศูนย์นำหน้า, รหัสพื้นที่ และรหัสประเทศ มีส่วนทำให้เกิดความไม่แน่นอนในระบบ
สาเหตุที่ 5: การใช้เครื่องร่วมกันหรือหมายเลขที่ถูกวนใช้ใหม่
Chamet ติดตามรหัสประจำตัวอุปกรณ์ (IMEI, ลายเซ็นฮาร์ดแวร์) การลงทะเบียนบนอุปกรณ์ที่เคยใช้กับ Chamet มาก่อน ไม่ว่าจะโดยคุณหรือผู้อื่น อาจกระตุ้นให้ระบบแจ้งเตือนว่าเป็นบัญชีซ้ำซ้อน
นอกจากนี้ หมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกวนกลับมาใช้ใหม่จากเจ้าของเดิมจะยังคงอยู่ในฐานข้อมูลถาวร ระบบไม่สามารถแยกแยะระหว่างเจ้าของเดิมและผู้ที่ได้รับเบอร์มาใหม่ได้
วิธีตรวจสอบสถานะบัญชีของคุณ
วิธีที่ 1: ทดสอบผ่านหน้าจอเข้าสู่ระบบ

ดาวน์โหลด Chamet ไปที่หน้าเข้าสู่ระบบ กรอกหมายเลขโทรศัพท์พร้อมรหัสประเทศที่ถูกต้อง และขอรหัสยืนยัน
หากได้รับรหัส OTP แสดงว่าหมายเลขของคุณถูกลงทะเบียนไว้แล้ว ให้กรอกรหัสเพื่อเข้าสู่บัญชีและตรวจสอบว่าเป็นบัญชีทั่วไป, บัญชีที่ยังสมัครไม่เสร็จ หรือบัญชีตัวแทนที่มีอยู่แล้ว
หากระบบแจ้งว่า หมายเลขโทรศัพท์ยังไม่ได้ลงทะเบียน (phone number not registered) ปัญหาอาจเกิดจากรูปแบบการกรอกข้อมูลหรือความล่าช้าในการซิงค์ ไม่ใช่การมีบัญชีซ้ำซ้อนจริงๆ
วิธีที่ 2: การกู้คืนรหัสผ่าน
ไปที่เมนู ลืมรหัสผ่าน (Forgot Password) แล้วกรอกหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ ระบบจะระบุว่ามีบัญชีอยู่หรือไม่ และอาจแสดงข้อมูลบางส่วน (วันที่ลงทะเบียน, ชื่อผู้ใช้, ประเภทบัญชี)
วิธีที่ 3: ตรวจสอบประวัติอีเมล
ค้นหาในกล่องจดหมายและอีเมลขยะเพื่อหาอีเมลจาก Chamet โดยใช้คำสำคัญ: verification (การยืนยัน), welcome (ยินดีต้อนรับ), registration (การลงทะเบียน) การยืนยันทางอีเมลจะยังคงอยู่แม้คุณจะลบแอปไปแล้ว ซึ่งจะช่วยบอกเวลาที่สมัครและลิงก์กู้คืนบัญชีได้
ประเภทสถานะบัญชี
ใช้งานอยู่ (Active): ใช้งานได้ปกติ มีประวัติการเข้าสู่ระบบสม่ำเสมอ ไม่มีการละเมิดกฎ ถูกระงับ (Suspended): ถูกปิดใช้งานชั่วคราวเนื่องจากการละเมิดนโยบาย, ข้อพิพาทด้านการชำระเงิน หรือปัญหาด้านความปลอดภัย ไม่เคลื่อนไหว (Dormant): ไม่มีกิจกรรมล่าสุด แต่ในทางเทคนิคยังถือว่าบัญชีเปิดอยู่
ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นไม่ว่าบัญชีจะมีสถานะใดก็ตาม เพราะการผูกหมายเลขโทรศัพท์จะยังคงอยู่เสมอ
วิธีแก้ไขทีละขั้นตอน
วิธีที่ 1: กู้คืนและเปลี่ยนประเภทบัญชีเดิม

เข้าสู่ระบบโดยใช้การยืนยันตัวตน แล้วไปที่การตั้งค่าบัญชี เข้าสู่พอร์ทัลการลงทะเบียนตัวแทนในขณะที่ยังล็อกอินอยู่ ระบบอาจอนุญาตให้คุณสมัครเป็นตัวแทนได้โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่แยกต่างหาก
หากไม่มีตัวเลือกการสมัครในแอป ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอเพิ่มสิทธิ์การเป็นตัวแทน ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลา 24-72 ชั่วโมงในการตรวจสอบและอนุมัติ
วิธีที่ 2: ขอปลดการเชื่อมต่อหมายเลขโทรศัพท์
เตรียมข้อมูล: หมายเลขโทรศัพท์ปัจจุบัน, วันที่ลงทะเบียนโดยประมาณ, อีเมลที่เกี่ยวข้อง, หลักฐานการเป็นเจ้าของ (ใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์)
ส่งคำร้องไปยังฝ่ายสนับสนุนโดยระบุให้ชัดเจนว่าคุณต้องการปลดการเชื่อมต่อหมายเลขเพื่อลงทะเบียนตัวแทน แนบภาพหน้าจอข้อผิดพลาดและเอกสารจากผู้ให้บริการเครือข่ายที่แสดงชื่อและหมายเลขของคุณ
ฝ่ายสนับสนุนจะตอบกลับภายใน 48-72 ชั่วโมง พวกเขาอาจขอให้คุณถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับบัตรประชาชนและกระดาษที่ระบุวันที่ปัจจุบัน หรือส่งรหัสยืนยัน การปลดการเชื่อมต่อจะใช้เวลาเพิ่มอีก 24-48 ชั่วโมงเพื่อให้ข้อมูลอัปเดตทั่วถึง แนะนำให้รอ 72 ชั่วโมงหลังจากได้รับการยืนยันก่อนจะลองลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง
วิธีที่ 3: การลงทะเบียนด้วยอีเมล
มองหาตัวเลือก การลงทะเบียนด้วยอีเมล (Email Registration) ในพอร์ทัลตัวแทน กรอกที่อยู่อีเมล สร้างรหัสผ่าน และรับลิงก์ยืนยันแทนรหัส SMS
ระบบอาจยังต้องการหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัยและการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น (2FA) แต่ตัวระบุหลักจะเป็นอีเมล ซึ่งจะช่วยข้ามข้อผิดพลาด มีอยู่แล้ว ที่ผูกกับการลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์ได้
ข้อจำกัด: ฟีเจอร์บางอย่างอาจต้องมีการยืนยันโทรศัพท์ในภายหลัง และการจ่ายค่าคอมมิชชันมักต้องการการยืนยันผ่านโทรศัพท์
วิธีที่ 4: รอการล้างแคชระบบ
หากคุณเพิ่งพยายามลงทะเบียน ติดต่อฝ่ายสนับสนุน หรือเปลี่ยนแปลงบัญชี ให้รอ 72-96 ชั่วโมงเพื่อให้ฐานข้อมูลซิงค์ข้อมูลกัน
ในช่วงที่รอ ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Chamet เช่น ไม่ดาวน์โหลดแอป, ไม่เข้าเว็บไซต์ หรือไม่พยายามเข้าสู่ระบบ หลังจากรอครบกำหนด ให้ลองลงทะเบียนบนอุปกรณ์อื่นหากเป็นไปได้ หรือล้างข้อมูลแอปทั้งหมด
ใช้อินเทอร์เน็ตที่เสถียร (อย่าสลับระหว่าง WiFi และเน็ตมือถือ) ระหว่างการลงทะเบียน วิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาข้อผิดพลาดทางเทคนิคได้ประมาณ 30%
วิธีที่ 5: ใช้หมายเลขโทรศัพท์สำรอง
ใช้หมายเลขอื่น เช่น เบอร์ส่วนตัวเบอร์ที่สอง, เบอร์ธุรกิจ หรือบริการเบอร์เสมือนที่สามารถรับ SMS ได้จริง
ทดสอบหมายเลขใหม่ที่หน้าจอเข้าสู่ระบบก่อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสประเทศถูกต้องและตรงกับรูปแบบหมายเลข
ลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นด้วยหมายเลขใหม่ หลังจากสำเร็จแล้ว คุณสามารถเพิ่มหมายเลขเดิมเป็นผู้ติดต่อสำรองได้ (แม้ว่าจะไม่สามารถใช้เป็นตัวระบุหลักได้หากยังผูกติดกับที่อื่นอยู่)
สำหรับการดำเนินงานของตัวแทน การเลือก เติมเงินแอป Chamet ผ่าน BitTopup จะช่วยให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็วพร้อมบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม
การติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Chamet
เตรียมข้อมูลที่จำเป็น
- ชื่อ-นามสกุล (ตามบัตรประชาชน)
- หมายเลขโทรศัพท์ที่พบปัญหา
- ข้อความข้อผิดพลาดที่ชัดเจน/ภาพหน้าจอ
- วันที่สร้างบัญชีก่อนหน้าโดยประมาณ
- ที่อยู่อีเมลที่เคยใช้กับ Chamet
- รุ่นอุปกรณ์และเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ
- ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- หลักฐานการเป็นเจ้าของโทรศัพท์ (ใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์ภายใน 30 วันล่าสุด)
ส่งคำร้องขอความช่วยเหลือ (Support Ticket)

ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือ (Help Center) ในส่วนการตั้งค่า/โปรไฟล์ของแอป เลือกหมวดหมู่ ปัญหาการลงทะเบียน (Registration Issues)
ประโยคแรกควรระบุว่า: "ฉันไม่สามารถลงทะเบียนตัวแทนได้เนื่องจากระบบแจ้งว่าหมายเลขโทรศัพท์นี้มีอยู่แล้ว แต่ฉันไม่เคยลงทะเบียน Chamet มาก่อน"
ระบุลำดับเหตุการณ์และแนบเอกสารประกอบเป็นย่อหน้าที่อ่านง่าย แนบภาพหน้าจอของข้อผิดพลาด, หน้าจอที่กรอกเบอร์โทรศัพท์ และความพยายามในการกู้คืนบัญชี
ระบุวิธีการติดต่อที่คุณสะดวกและช่วงเวลาที่ติดต่อได้
ระยะเวลาการตอบกลับ
การตอบกลับเบื้องต้น: 24-48 ชั่วโมง การปลดการเชื่อมต่อโทรศัพท์: 3-7 วันทำการหลังจากยืนยันตัวตน การเปลี่ยนประเภทบัญชี: 2-4 วันทำการ กรณีที่ซับซ้อน: 10-14 วันทำการ
การติดตามผล
หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขภายในเวลาที่กำหนด ให้ตอบกลับเพื่อขอให้ส่งเรื่องต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับสูง อ้างอิงหมายเลขคำร้องเดิม และสรุปปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
หากผ่านไป 7-10 วันแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ให้ลองติดต่อผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการหรือฟอรัมชุมชน
พิจารณาวิธีการลงทะเบียนอื่นแทนการรอคอยอย่างไร้จุดหมาย
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
ความเชื่อที่ 1: ต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ใหม่เอี่ยมเท่านั้น
ไม่จริง ข้อกำหนดเรื่องเบอร์ ใหม่ ใช้สำหรับการรับสมัครโฮสเตสเข้าสังกัดเอเจนซี่ของคุณ ไม่ใช่สำหรับบัญชีตัวแทนของคุณ บัญชีตัวแทนสามารถใช้หมายเลขใดก็ได้ที่ไม่ได้ผูกกับบัญชี Chamet อื่นอยู่ในขณะนั้น
ความเชื่อที่ 2: การลบแอปจะทำให้หมายเลขโทรศัพท์ถูกลบออกไปด้วย
ไม่จริง การถอนการติดตั้งเป็นการลบซอฟต์แวร์ออกจากเครื่อง แต่ข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ยังคงอยู่ โปรไฟล์บัญชี, การผูกเบอร์โทรศัพท์ และประวัติการใช้งานจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Chamet แยกต่างหาก
การลบข้อมูลที่ถูกต้องต้องทำผ่านเมนูการจัดการบัญชีหรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนเท่านั้น และถึงกระนั้น แพลตฟอร์มอาจยังเก็บประวัติหมายเลขไว้เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย
ความเชื่อที่ 3: การใช้ VPN จะช่วยข้ามข้อผิดพลาดนี้ได้
ไม่จริง Chamet ใช้ฐานข้อมูลส่วนกลางชุดเดียวกันทั่วโลก การตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์จะทำครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะใช้เซิร์ฟเวอร์ภูมิภาคใดหรือ IP จากที่ไหนก็ตาม
การใช้ VPN อาจทำให้ระบบตรวจจับการฉ้อโกงทำงาน เนื่องจากรหัสประเทศของโทรศัพท์ไม่ตรงกับตำแหน่งของ IP ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น
ความจริงเกี่ยวกับนโยบายหนึ่งเบอร์ต่อหนึ่งตัวแทน
นโยบายนี้มีไว้เพื่อป้องกันเครือข่ายที่ฉ้อโกง, ตรวจสอบความรับผิดชอบผ่านการยืนยันตัวตนด้วยโทรศัพท์ และป้องกันการโจรกรรมบัญชี
นโยบายนี้ใช้กับบัญชีทุกประเภทอย่างเท่าเทียมกัน และป้องกันไม่ให้บัญชีโฮสเตสที่มีอยู่แล้วมาผูกกับเอเจนซี่ เนื่องจากเบอร์ของโฮสเตสได้ถูกผูกไว้กับบัญชีวีเจแล้ว
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันปัญหา
บันทึกข้อมูลบัญชีไว้เสมอ
สร้างเอกสารที่ปลอดภัยเพื่อเก็บข้อมูล: ชื่อผู้ใช้, เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียน, อีเมล, วันที่ลงทะเบียน, ประเภทบัญชี และอัปเดตข้อมูลทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง
เก็บรหัสยืนยันและอีเมลยืนยันไว้ รวมถึงถ่ายภาพหน้าจอเมื่อลงทะเบียนสำเร็จและหน้าแดชบอร์ด
ตรวจสอบการเข้าสู่ระบบทุกไตรมาสเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ลืมรหัสผ่านหรือสูญเสียการเข้าถึง
ทำความเข้าใจการเปลี่ยนประเภทบัญชี
บัญชีเดียวสามารถมีสิทธิ์การใช้งานได้หลายระดับ ก่อนจะสร้างบัญชีตัวแทนใหม่ ให้ลองตรวจสอบว่าสามารถอัปเกรดบัญชีเดิมได้หรือไม่
ติดต่อฝ่ายสนับสนุนเกี่ยวกับการเพิ่มสิทธิ์ตัวแทนในบัญชีปัจจุบัน บางสถานะ (เช่น ถูกระงับ, ถูกแบน) จะไม่สามารถเปลี่ยนประเภทได้จนกว่าปัญหาเดิมจะได้รับการแก้ไข
การลงทะเบียนด้วยอีเมลเทียบกับโทรศัพท์
เลือกใช้อีเมลเมื่อ: พยายามปลดการเชื่อมต่อเบอร์โทรศัพท์แล้วไม่สำเร็จ, อยู่ในภูมิภาคที่มีปัญหาเบอร์วนใช้ใหม่บ่อย, หรือต้องการเปิดบัญชีอย่างเร่งด่วน
การลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์ดีกว่าในแง่ของ: การยืนยันการชำระเงินที่รวดเร็วกว่า, การกู้คืนบัญชีที่ง่ายกว่า และระบบ 2FA ที่เชื่อถือได้
บันทึกขั้นตอนการลงทะเบียน
ก่อนเริ่ม: จดวันที่, เวลา, อุปกรณ์, ระบบปฏิบัติการ, เวอร์ชันแอป และประเภทการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ถ่ายภาพหน้าจอทุกขั้นตอน หากเกิดข้อผิดพลาด ให้บันทึกข้อความและรหัสข้อผิดพลาดที่ปรากฏ
บันทึกขั้นตอนการแก้ไขปัญหาและผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อป้องกันการทำซ้ำในวิธีที่ไม่ได้ผล
ช่องทางการลงทะเบียนทางเลือก
ขั้นตอนการลงทะเบียนด้วยอีเมล

เข้าสู่พอร์ทัลตัวแทน มองหา วิธีการลงทะเบียนอื่น (Alternative Registration Methods) หรือ ลงทะเบียนโดยไม่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ (Register Without Phone Number) หากไม่พบ ให้สอบถามฝ่ายสนับสนุนเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของการลงทะเบียนด้วยอีเมล
ใช้อีเมลส่วนตัว (หลีกเลี่ยงอีเมลสาธารณะหรืออีเมลชั่วคราว) สร้างรหัสผ่านที่คาดเดายาก (8-16 ตัวอักษร, มีทั้งตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก, ตัวเลข และสัญลักษณ์) กรอกชื่อเอเจนซี่, ภูมิภาค และข้อมูลธุรกิจ
ตรวจสอบกล่องจดหมาย/อีเมลขยะเพื่อหาข้อความยืนยัน คลิกที่ลิงก์ภายใน 24 ชั่วโมง ระบบอาจยังขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อการยืนยันขั้นที่สอง ให้ใช้หมายเลขที่ยังไม่เคยผูกกับบัญชีอื่น
กรอกโปรไฟล์ให้สมบูรณ์ด้วยการยืนยันตัวตน (ID Verification), การลงทะเบียนธุรกิจ (ถ้ามี) และข้อมูลการชำระเงิน
หมายเลขธุรกิจเทียบกับหมายเลขส่วนตัว
หมายเลขธุรกิจมีข้อดีคือ: ดูเป็นมืออาชีพ, แยกการสื่อสารออกจากเรื่องส่วนตัว, มีประโยชน์ด้านภาษี และมีความต่อเนื่องหากคุณเปลี่ยนเบอร์ส่วนตัว
สามารถขอเบอร์ได้จากผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วไปหรือบริการ VoIP ที่รับ SMS ได้ ทดสอบการรับ SMS ก่อนนำไปลงทะเบียน
หมายเลขส่วนตัวสามารถใช้ได้หากคุณเน้นความสะดวกและไม่ต้องการแยกบัญชีออกจากกัน
ความแตกต่างในแต่ละภูมิภาค
ข้อกำหนดจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่: บางแห่งต้องใช้เอกสารจดทะเบียนธุรกิจ บางแห่งยอมรับการสมัครในนามบุคคล
รูปแบบหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบบต้องการจะต่างกันไปตามประเทศ รหัสประเทศต้องตรงกับแหล่งที่มาจริงของหมายเลขนั้น
ขั้นตอนการชำระเงินก็ต่างกัน: บางภูมิภาคต้องใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ หรือข้อมูลธนาคารเฉพาะทาง
การเปรียบเทียบระยะเวลา
ผ่านโทรศัพท์: 5-10 นาทีหากไม่มีปัญหา; อาจเป็นวันหรือสัปดาห์หากพบข้อผิดพลาด ผ่านอีเมล: 15-30 นาทีในตอนแรก + 24-48 ชั่วโมงสำหรับการอนุมัติ ผ่านฝ่ายสนับสนุน: 3-7 วันสำหรับกรณีทั่วไป; 10-14 วันสำหรับกรณีที่ซับซ้อน
หลังจากแก้ไขข้อผิดพลาดได้แล้ว
ดำเนินการสมัครตัวแทนให้เสร็จสิ้น
เข้าสู่ระบบ ไปที่ส่วนของตัวแทน กรอกชื่อเอเจนซี่ (ควรเป็นชื่อที่เป็นมืออาชีพ จดจำง่าย ไม่ซ้ำใคร), ภูมิภาคที่ดำเนินงาน และข้อมูลติดต่อ
อัปโหลดเอกสารที่จำเป็น กรอกข้อมูลธุรกิจให้ครบถ้วนแม้จะเป็นส่วนที่เลือกได้ก็ตาม เพราะจะช่วยให้การอนุมัติเร็วขึ้น
การตรวจสอบเอกสาร
เตรียมบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐ (พาสปอร์ต, บัตรประชาชน, ใบขับขี่) ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารูปถ่ายชัดเจน แสงสว่างเพียงพอ และเห็นรายละเอียดครบถ้วน
บางภูมิภาคอาจต้องการใบรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ, เอกสารภาษี หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
อัปโหลดในรูปแบบที่กำหนด (JPEG/PNG สำหรับรูปภาพ, PDF สำหรับเอกสารหลายหน้า) และปฏิบัติตามข้อจำกัดขนาดไฟล์
ระยะเวลาการอนุมัติ
การอนุมัติมาตรฐาน: 2-5 วันทำการหลังจากส่งข้อมูลครบถ้วน การตรวจสอบด้วยคนจะช่วยรับประกันคุณภาพ
การส่งเรื่องในวันธรรมดาจะดำเนินการเร็วกว่าวันหยุด หมั่นตรวจสอบอีเมลและการแจ้งเตือนในแอปเพื่อดูคำขอการยืนยันเพิ่มเติม
การสมัครที่ไม่สมบูรณ์จะทำให้ระยะเวลายืดออกไปอีก 3-7 วันต่อรอบการแก้ไข
การเข้าใช้งานแดชบอร์ด
เมื่อได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับอีเมลและการยืนยันในแอป ให้ไปที่ ศูนย์ตัวแทน (Agent Center) หรือ แดชบอร์ดเอเจนซี่ (Agency Dashboard)
ทำตามบทเรียนแนะนำเบื้องต้น ศึกษาเครื่องมือการรับสมัครวีเจ, การติดตามค่าคอมมิชชัน, การจัดการการชำระเงิน และการวิเคราะห์ผลงาน
ตั้งค่าช่องทางการรับเงินทันที: กรอกข้อมูลธนาคาร, เลือกวิธีการชำระเงิน และตรวจสอบความถูกต้อง ข้อผิดพลาดในส่วนนี้จะทำให้การจ่ายเงินล่าช้า
กรณีศึกษาจากผู้ใช้จริง
กรณีที่ 1: บัญชีทดลองที่ลืมไปแล้ว
ผู้ใช้พบข้อผิดพลาดทั้งที่มั่นใจว่าไม่เคยใช้ Chamet การทดสอบเข้าสู่ระบบพบว่ามีบัญชีที่สร้างไว้เมื่อ 8 เดือนก่อน โดยเคยดาวน์โหลดแอป สร้างบัญชี ดูไลฟ์เพียงครั้งเดียว แล้วลบแอปทิ้งในวันเดียวกัน
วิธีแก้: กู้คืนบัญชีที่ไม่ได้ใช้งานผ่านการรีเซ็ตรหัสผ่าน ติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขออัปเกรดเป็นตัวแทน ฝ่ายสนับสนุนตรวจสอบแล้วว่าไม่มีการละเมิดกฎ จึงอนุมัติสิทธิ์ตัวแทนภายใน 48 ชั่วโมง และได้รับการอนุมัติเป็นตัวแทนเต็มตัวใน 3 วัน
กรณีที่ 2: หมายเลขที่ถูกวนใช้ใหม่
ผู้ใช้ได้เบอร์ใหม่จากเครือข่ายและพบข้อผิดพลาด มีอยู่แล้ว ทันที การทดสอบพบว่ามีบัญชีที่ยังมีการใช้งานอยู่และมีการล็อกอินล่าสุด ซึ่งเป็นเบอร์ที่วนมาจากเจ้าของเดิม
วิธีแก้: ติดต่อฝ่ายสนับสนุนพร้อมแนบใบแจ้งหนี้จากเครือข่ายและภาพหน้าจอโทรศัพท์ ฝ่ายสนับสนุนตรวจสอบพบว่ามีการใช้อุปกรณ์และ IP ที่ต่างกัน จึงยืนยันว่าเป็นกรณีเบอร์วนใช้ใหม่ และทำการปลดการเชื่อมต่อจากเจ้าของเดิม (พร้อมติดต่อเจ้าของเดิมให้อัปเดตข้อมูล) เพื่อให้ผู้ใช้ใหม่ลงทะเบียนได้
ระยะเวลา: 9 วันทำการตั้งแต่ติดต่อฝ่ายสนับสนุนจนลงทะเบียนสำเร็จ
กรณีที่ 3: แคชของระบบ
ผู้ใช้พยายามลงทะเบียนแล้วพบข้อผิดพลาด ฝ่ายสนับสนุนยืนยันว่าไม่มีบัญชีอยู่จริง จึงแนะนำให้รอ 48 ชั่วโมง เมื่อลองอีกครั้งในครั้งที่สองก็สามารถลงทะเบียนได้ทันที
สาเหตุ: การลงทะเบียนที่ไม่สมบูรณ์ก่อนหน้านี้บนอุปกรณ์อื่นทำให้ระบบจำหมายเลขไว้ในแคชแต่ยังไม่ได้สร้างบัญชีจริง การรอ 48 ชั่วโมงช่วยให้แคชการลงทะเบียนถูกล้างออกไป
บทเรียนสำคัญ
- ตรวจสอบสถานะจริงผ่านการทดสอบเข้าสู่ระบบก่อนติดต่อฝ่ายสนับสนุน
- เก็บหลักฐานให้ครบถ้วน (ภาพหน้าจอ, เวลาที่เกิดปัญหา, รายละเอียดที่ชัดเจน)
- ให้เวลาระบบในการซิงค์ข้อมูลและตรวจสอบอย่างเพียงพอ
- รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีสำรองแทนการดึงดันใช้วิธีที่ติดขัด
- ความยืดหยุ่นคือสิ่งที่แยกตัวแทนที่ประสบความสำเร็จออกจากคนที่ติดอยู่กับปัญหา
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในฐานะตัวแทน
ขั้นตอนแรกที่สำคัญ
กรอกโปรไฟล์ให้ครบถ้วนและเป็นมืออาชีพ: ใช้รูปภาพที่ดูดี, คำอธิบายเอเจนซี่ที่น่าดึงดูด และระบุช่องทางการติดต่อทั้งหมด วีเจจะประเมินเอเจนซี่ก่อนตัดสินใจเข้าร่วม โปรไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์จะลดโอกาสในการได้รับการยอมรับ
ศึกษานโยบายตัวแทน, โครงสร้างค่าคอมมิชชัน และข้อกำหนดการสนับสนุน ทำความเข้าใจพันธกิจ, สิ่งที่ห้ามทำ และวิธีการคำนวณรายได้
วางแผนกลยุทธ์การรับสมัคร: ระบุกลุ่มเป้าหมาย, เตรียมบทพูดแนะนำ และสร้างทรัพยากรสนับสนุนสำหรับวีเจ
โครงสร้างค่าคอมมิชชัน
ตัวแทนจะได้รับเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของวีเจ อัตราจะต่างกันไปตามภูมิภาค, ระดับผลงาน และโปรโมชัน ตรวจสอบรายละเอียดที่แน่นอนได้ในแดชบอร์ด
รอบการจ่ายเงินมักจะเป็นรายเดือน และมีเกณฑ์การถอนเงินขั้นต่ำ ตรวจสอบข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละภูมิภาค
ตั้งค่าช่องทางการชำระเงินไว้หลายทางหากเป็นไปได้ และตรวจสอบข้อมูลทุกไตรมาส
การสร้างเครือข่ายวีเจ
รับสมัครอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่สุ่มเลือก เข้าไปดูการไลฟ์เพื่อค้นหาผู้ที่มีความสามารถ ส่งคำเชิญแบบเฉพาะตัวที่ระบุถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ
มอบคุณค่าที่แท้จริง: การฝึกอบรม, การสนับสนุนด้านเทคนิค, การช่วยโปรโมต และการสอนเทคนิคการจัดรายการ สร้างคู่มือแนะนำ (เคล็ดลับการไลฟ์, วิธีสร้างการมีส่วนร่วม, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า)
ติดตามผลงานผ่านระบบวิเคราะห์ในแดชบอร์ด ระบุวีเจที่ทำผลงานได้ดีเพื่อสนับสนุนเพิ่มเติม และช่วยเหลือวีเจที่กำลังประสบปัญหา
ใช้ประโยชน์จาก BitTopup
การดำเนินงานอย่างมืออาชีพต้องการการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ BitTopup ให้บริการเติมเงิน Chamet ที่ครอบคลุม พร้อมราคาที่คุ้มค่า ส่งไว (ภายในไม่กี่นาที) และขั้นตอนที่ปลอดภัย
บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความครอบคลุมที่กว้างขวางและคะแนนรีวิวที่สูง คุณจึงมั่นใจได้ในการดำเนินงานที่ราบรื่นเพื่อสนับสนุนวีเจจำนวนมากในสังกัด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทำไม Chamet ถึงบอกว่าเบอร์ของฉันมีอยู่แล้ว ทั้งที่เพิ่งสมัครครั้งแรก? อาจเกิดจากการลงทะเบียนที่ลืมไปแล้ว, ความพยายามสมัครที่ไม่สำเร็จแต่ระบบจำแคชไว้, เบอร์ที่วนมาจากเจ้าของเดิม หรือปัญหาจากตัวอุปกรณ์ ให้ลองทดสอบเข้าสู่ระบบเพื่อดูสถานะบัญชีจริง แล้วจึงดำเนินการกู้คืนหรือปลดการเชื่อมต่อ
สามารถใช้เบอร์เดียวกันสำหรับบัญชีทั่วไปและบัญชีตัวแทนได้หรือไม่? ไม่ได้ Chamet มีนโยบายหนึ่งเบอร์ต่อหนึ่งบัญชี คุณต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอเพิ่มสิทธิ์ตัวแทนในบัญชีทั่วไปที่มีอยู่ เพื่อเปลี่ยนประเภทบัญชีโดยใช้เบอร์เดิม
การแก้ไขข้อผิดพลาดหมายเลขโทรศัพท์ใช้เวลานานแค่ไหน? การกู้คืนบัญชี: 2-4 วัน, การปลดการเชื่อมต่อเบอร์: 3-7 วัน (กรณีทั่วไป) หรือ 10-14 วัน (กรณีซับซ้อน), การซิงค์ฐานข้อมูล: 48-72 ชั่วโมงโดยอัตโนมัติ, การใช้เมลหรือเบอร์สำรอง: 15-30 นาที + รออนุมัติ 2-5 วัน
จะตรวจสอบได้อย่างไรว่าเบอร์ถูกลงทะเบียนไว้หรือยัง? ลองเข้าสู่ระบบ หากได้รับรหัส OTP แสดงว่าลงทะเบียนแล้ว หรือใช้เมนูกู้คืนรหัสผ่านเพื่อตรวจสอบการมีอยู่ของบัญชี และค้นหาอีเมลยืนยันจาก Chamet ในกล่องจดหมายของคุณ
สามารถปลดการเชื่อมต่อเบอร์จากบัญชีเก่าได้หรือไม่? ได้ ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนพร้อมแนบใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์และภาพหน้าจอ ฝ่ายสนับสนุนจะยืนยันตัวตนและดำเนินการปลดการเชื่อมต่อ (3-7 วัน) จากนั้นให้รออีก 48-72 ชั่วโมงเพื่อให้ระบบซิงค์ข้อมูลก่อนลองสมัครใหม่
มีวิธีลงทะเบียนอื่นโดยไม่ใช้เบอร์โทรศัพท์ไหม? การลงทะเบียนด้วยอีเมลจะใช้อีเมลเป็นตัวระบุหลัก แต่ยังอาจต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อการยืนยันขั้นที่สอง (ให้ใช้เบอร์ที่ยังไม่เคยผูกกับบัญชีใดๆ) บางภูมิภาคอาจยอมรับเอกสารธุรกิจ ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อดูตัวเลือกในพื้นที่ของคุณ
ลงทะเบียนเป็นตัวแทน Chamet สำเร็จแล้วใช่ไหม? เพิ่มรายได้ของคุณด้วย BitTopup ช่องทางซื้อเหรียญและเพชร Chamet ที่เร็วและปลอดภัยที่สุด ส่งไวทันใจ ราคาคุ้มค่า พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มค่าคอมมิชชันของคุณได้ตั้งแต่วันนี้

















